Gary Bowser รับโทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์เกมส์ Nintendo

Gary Bowser รับโทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์เกมส์ Nintendo

Gary Bowser, หัวหน้ากลุ่ม Team Xecuter ได้กลับคำร้องเป็นยอมรับโทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของ Nintendo พร้อมทั้งตกลงจ่ายค่าเสียหายจำนวน 4.5 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 2 พฤจิกายน 2564 – ได้มีการรายงานข่าวถึงความคืบหน้าของกรณีคดีละเมิดลิขสิทธิ์เกมส์ของบริษัทเกทส์ชื่อดังอย่าง Nintendo โดยหัวหน้ากลุ่มแฮคระบบ Team Xecuter, Gary Bowser นั้น ได้เปลี่ยนคำร้องจากยืนกรานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ มาเป็นยอมรับโทษในความผิดสองข้อหา และยินยอมจ่ายเงินชดเชยแก่นินเทนโดเป็นจำนวน 4.5 ล้านดอลลาร์

Gary Bowser นั้นถูกจับกุมเมื่อเดือนตุลาคม 2020 

พร้อมด้วยสมาชิกภายในทีมงาน Team Xecuter, ที่เป็นทีมงานที่ทำการสร้าง และเผยแพร่ซอฟต์แวร์ที่เปิดทางให้สามารถเล่นเกมส์เถื่อน (pirated games) ได้บนเครื่องเล่นต่าง ๆ รวมไปถึงเครื่องเล่นของนินเทนโด อย่าง 3DS และ Switch

ในช่วงแรกนั้น Bowser ได้ยื่นคำร้องว่าเขานั้นบริสุทธิ์จากข้อกล่าวทั้งหมด ได้แก่ 

สมรู้ร่วมคิดในการใช้งานมาตรการทางเทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยง

ลักลอบค้าขายอุปกรณ์ที่ใช้งานการหลีกเลี่ยง

โดยเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา Bowser ได้ทำการข้อตกลงด้วยการยอมรับข้อหาที่กล่าวไป พร้อมทั้งยินยอมในการจ่ายเงินชดเชยให้กับทาง Nintendo เป็นจำนวนเงิน 4.5 ล้านดอลลาร์ TorrentFreak ได้ทำการเปิดเผยเอกสารข้อตกลงที่กล่าวว่า “โจทก์, Gary Bower หรือที่รู้จักในนามว่า ‘GaryOPA,’ มีส่วนร่วมอย่างเต็มใจ และยินยอมในองค์กรอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ซึ่งทำการแฮกเครื่องเกมส์ต่าง ๆ และทำการพัฒนา, ผลิต, ประชาสัมพันธ์ และขายอุปกรณ์ในการหลีกเลี่ยงที่เปิดทางผู้ใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นสามารถที่จะเล่นเกมส์เถื่อนที่เป็นตัวเกมส์เวอร์ชั่นละเมิดลิขสิทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า ‘ROMs’ ได้”

จากการสืบส่วนนั้น นำมาสู่การจับกุม Bowser และผู้นำอีกคนหนึ่งของกลุ่ม, Max Louarn ผู้ซึ่งถูกตั้งข้อหาจำนวน 11 กระทงด้วยกัน อาทิ สมรู้ร่วมคิดกันดำเนินการฉ้อโกงเป็นสาย (wire fraud), สมรู้ร่วมคิดกันดำเนินการฟอกเงิน และอื่น ๆ

ซึ่งนอกจากในส่วนนี้แล้วนั้นทางนินเทนโดเองก็ได้ทำการฟ้องร้องแยกออกมาอีกกรณีหนึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นการดำเนินการป้องกัน Bowser ในการกระทำการละเมิดกฎหมายเพิ่มเติม พร้อมเรียกร้องให้เขายินยอมส่งมอบ Domain และ Websites ต่าง ๆ ของ Xecuter รวมไปถึงทำลายซอฟต์แวร์ที่เปิดทางให้ละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย ซึ่งในเวลานี้นั้นคดีความยังคงดำเนินต่อไปอยู่

อย่างไรก็ตามหลายคนยังคงกังวลว่าการเพิ่มโฆษณาเข้าไปจะทำให้แอปฯ สูญเสียจุดยืนด้วยรึเปล่า? ซึ่งต้องบอกก่อนว่า การแสดงโฆษณาบนแอปฯ จะทำได้เฉพาะบัญชี ช่องสาธารณะ ที่มียอดผู้ติดตาม มากกว่า 1,000 คน ขึ้นไป ดังนั้นบัญชีธรรมดาอย่างเราที่มีไว้แค่สนทนาทั่วไปก็หมดห่วงได้เลย และยังคงยืนยันว่า นโยบายความเป็นส่วนตัวจะยังคงเหมือนเดิม

เพราะฉะนั้นจะไม่มีการเก็บข้อมูลบัญชีผู้ใช้แน่นอน หรือสรุปง่าย ๆ เลยก็คือ โฆษณาต่าง ๆ จะไปปรากฎอยู่บนช่องสาธารณะที่มียอดผู้ติดตาม จำนวน 1,000 คน ขึ้นไป หรือต่อให้เราเผลอกดคลิกเข้าไปดู ข้อมูลต่าง ๆ ก็จะไม่ถูกส่งไปยังลิงก์ภายนอก ทำให้มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลจะยังปลอดภัยดี และไม่ต้องกังวลกับไวรัสหรือสแปมได้อีกด้วย

Instagram เปิดฟังก์ชั่น Twitter Card previews อีกครั้งหลังปิดไปเป็นปี

Instagram ได้ประกาศถึงการเปิดใช้งานฟังก์ชั่น Twitter Card previews หลังจากปิดการใช้งานไปนานหลายปี (หลังจาก Facebook ซื้อ Instagram)  วันนี้ (4 พ.ย. 2564) Instagram (IG) ได้ทำการประกาศอย่างภาคภูมิใจถึงการเปิดให้ใช้งานในฟังก์ชั่นแสดงผลตัวอย่างโพสต์บนทวีตเตอร์หรือ Twitter Card Previews ที่ซึ่งจะทำการแสดงผลเป็นในรูปแบบ Card เมื่อคุณทำการนำลิ้งค์ไปโพสต์ลงบนทวีตเตอร์

ถึงแม้ว่าจะดูเป็นฟังก์ชั่นที่ดูใหม่และดีนั้น คุณอาจจะประหลาดใจว่าทำไมมันไม่มีตั้งแรก และหมายความว่าอย่างไรกับ “หลายคนพูดว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้น”

เป็นที่น่าประหลาดใจที่ว่าฟังก์ชั่นนี้นั้น เคยมีมาแล้วก่อนหน้านี้ จนกระทั้ง Facebook ซื้อกิจการของ IG ไปเมื่อหลายปีก่อน หลังจากการซื้อขายดังกล่าวนั้น Twitter ได้ทำการปิดกั้น IG ในการใช้งาน API เพื่อที่จะเปิดทางให้ผู้คนสามารถค้นหาเพื่อนบน Twitter จากทาง IG ได้ซึ่งทาง IG ก็ได้ตอบโต้กลับด้วยการยับยั้งไม่ให้ Twitter สามารถ Embedding Post ของ IG ได้ เมื่อผู้ใช้งานต้องการ Shared Link 

ถือว่าเป็นการกระทำตอบโต้แบบเด็กเล่นของบริษัทระดับหลายพันล้านดอลลาร์ก็ว่าได้ โดยการเปิดทางครั้งนี้ก็มีการคาดว่าเป็นหนึ่งในความพยายามแก้ไขพัฒนาภาพลักษณ์ของบริษัท หลังจากเปลี่ยนชื่อเป็น Meta ไปของ Facebook ซึ่งก่อนหน้าจะเปิดทางให้สามารถเชื่อมต่อกับ Twitter ได้แล้วนั้น Facebook (บริษัทย่อย) ได้ทำการปลดระบบตรวจจับใบหน้า และลบฐานข้อมูลนับล้านลงไป

แม้ว่าการเปิดทางให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ระหว่าง Twitter และ IG จะดูเล็กกว่าการลบฐานข้อมูลส่วนบุคคล และระบบตรวจจับใบหน้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็ถือว่าเป็นหนึ่งในแนวทางยุทธศาสตร์เดียวกัน – เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และความสัมพันธ์ใหม่ให้แก่บริษัทชื่อใหม่

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป